American whisky (อเมริกัน วิสกี้)

American whisky (อเมริกัน วิสกี้) คืออะไร มันคือวิสกี้ที่เราเคยดื่มหรือเหมือนกับสก็อตส์วิสกี้ไหม แล้วถ้ามันคือวิากี้คนละประเภทกัน มันมีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เรามาศึกษาไปด้วยกันเลยนะครับ 

อเมริกัน วิสกี้ คือหนึ่งในประเภทย่อยของเหล้าวิสกี้ มีถิ่นกำเนิดครั้งแรก ที่รัฐเวอรจิเนีย”Virginia” ปี ค.ศ.1791 เริ่มต้นจากการใช้ข้าวไรย์(Rye) แทนข้าวบาร์เลย์(Barley) เพราะเติบโตได้ดีในเขตชายฝั่งตะวันออก และเริ่มพัฒนามาใช้ข้าวโพดเพราะข้าวโพดเติบโตได้ดีในแถบนั้น ที่ชาวบ้านนิยมปลูกกัน จนกระทั่งเกิดเป็นรสชาติเหล้าวิสกี้และสัมผัสใหม่ๆ

ถึงแม้จะมีการเรียกรวมกันว่าวิสกี้เหมือนกัน แต่ในตัวเขียนจะเติมตัว อี “E” เข้าไป โดยได้เริ่มใช้หลักการนี้ในศตวรรษที่ 18 เพื่อแสดงความแตกต่างและคุณภาพที่คงเส้นคงวาของ American Whiskey และ Irish Whiskey ออกจาก Scotch Whisky ซึ่งได้รับความนิยมในขณะนั้นแต่ว่าคุณภาพกลับลดลง เพราะเน้นปริมาณมากที่ส่งออกตลาด

เพื่อให้สามารถขึ้นฉลากในชื่อของ American Whiskey ได้ นอกจากการผลิตต้องอยู่ในอเมริกาแล้ว Whisky หลังขั้นตอนการกลั่นต้องมีปริมาณแอลกอฮอล์ไม่เกิน 80% เพื่อให้ตัววิสกี้ที่ได้ยังคงรสชาติของเชื้อหมักเดิมไว้ ก่อนนำไปเจือจางด้วยน้ำ และ บ่มในถังเพื่อแต่งสีและ กลิ่นเพิ่มเติม การใช้วิธีลัดอย่างการเติมคาราเมลหรือแต่งกลิ่นสังเคราะห์นั้น ถูกสั่งห้ามโดยเด็ดขาด

กรรมวิธีการทำอเมริกันวิสกี้

เหล้าวิสกี้ทำจากธัญญพืชนานาพันธุ์ เช่น ข้าวมอล์ทของบาร์เล่ย์ ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์ ข้าวฟ่าง โดยการนำข้าวไปบดแล้วนึ่งแล้วหมักด้วยเชื้อยีสต์ เมื่อส่าได้ที่ก็ทำการกลั่นด้วยเครื่องระบบต่อเนื่อง (Pantent Stills) แต่ถ้าเป็นมอล์ทวิสกี้ก็ต้องกลั่นด้วยเครื่องกลั่นแบบกลั่นทับ (Pot Stills) อเมริกันวิสกี้จะกลั่นด้วยเครื่องกลั่นระบบต่อเนื่องออกมาเป็นแอลกอฮอล์ 95 ดีกรี

จากนั้นก็ไปลดดีกรีโดยการผสมน้ำกลั่นบริสุทธิ์ ให้เหลือ ให้เหลือ 40-50 ดีกรี แล้วเก็บบ่มในถังไม้โอ๊กนานกี่ปีนั่นขึ้นอยู่กับชนิดของสุรา หรือประเภทของวิสกี้นั้น ๆ เมื่อเก็บได้ที่ก็นำออกผสมปรุงแต่ง และบรรจุขวดขาย

สำหรับ American Whiskey ตามที่กฎหมายได้กำหนด สามารถแบ่งแยกเป็นประเภทหลักๆได้ 7ชนิด ตามสัดส่วนวัถุดิบสำคัญ ได้แก่

1.ไรย์ วิสกี้ (Rye Whiskey) มีสัดส่วนที่มีข้าวไรย์ (Rye) อย่างน้อย 51% ตามกฎหมายกำหนด ส่วน 49% ที่เหลือเป็นธัญพืชอื่น ๆ แล้วแต่สูตรของแบรนด์นั้น ๆ ข้อดีจุดเด่นของวิสกี้ชนิดนี้กลิ่นคล้ายเลมอน และขมกว่าวิสกี้ทั่วไป

เช่น Rebel Yell Small Batch Eye  วิสกี้ที่ผลิตและจำหน่ายในจำนวนจำกัดแต่ละรอบ เพื่อคงคุณภาพให้ทั่วถึง ให้ความนุ่มนวลและจัดจ้าน มี Character ที่โดดเด่นพอที่จะเป็นพระเอกใน Classic Cocktail

rye whiskey

2.ไรย์ มอลท์ วิสกี้ (Rye Malt Whiskey) ใช้ข้าวไรย์(Rye) เป็นสัดส่วนหลัก 51% ส่วนอีก 49%เป็นธัญพืชแต่ต้องนำไปตากแห้งแช่น้ำให้เป็นมอลท์ ก่อนที่จะนำมาผลิตเป็นวิสกี้ 

rye malt whiskey

โดยตัวอย่างของวิสกี้ชนิดนี้ คือ Five Fathers Pure Malt Rye Whiskey บ่มในถัง American Oak เผาไฟตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ทำให้ข้าวไรย์ส่งกลิ่นหอมของพริกไทยดำ, กระวาน, ขิง และ มีกลิ่นที่หนักแน่นของวนิลาและคาราเมล

3.มอลท์ วิสกี้ (Malt Whiskey) มีส่วนผสมของเชื้อหมักจากมอลท์ บาร์เลย์ (Malt Barley) 51% เเต่ใน American Whiskey จะมีส่วนผสมของ มอลท์ บาร์เลย์ และข้าวสาลี ข้าวโพด อีกด้วย 

malt whiskey

ตัวอย่างเช่น Van Brunt Stillhouse American Whiskey ที่มีส่วนผสมของ มอลต์ บาร์เลย์ และ ข้าวสาลี เสริมรสสัมผัสด้วยข้าวโพด และ ไรย์ ให้กลิ่นหอมดอกไม้ และความหวานของถังบ่มใหม่

4. วีท วิสกี้ (Wheat Whiskey) มีส่วนผสมหลักเป็นข้าวสาลี (Wheat) 51% วิสกี้บางขวดจะขึ้นฉลากว่า สเตรท (Straight) ได้ก็ต่อเมื่อบ่มในถังไม้โอ๊คใหม่เผาไฟไม่ต่ำกว่า 2ปี 

Wheat whiskey

ตัวอย่างเช่น Stilltheone Distillnary No.3 Westcherster Wheat Whiskey ให้ความหวานแบบวานิลาน้ำผึ้งติดปลายของคาราเมลและช็อคโกแลต ผลิตจากข้าวสาลีออแกนิก 100% โดยมีแหล่งเพาะปลูกในรัฐนิวยอร์ก

5.เบอร์เบิ้น วิสกี้ (Bourbon Whiskey) ชื่อของวิสกี้ชนิดนี้ นำมาจากชื่อของ House of Bourbon (ราชวงศ์บูร์บง) มีการผลิตครั้งแรกในศตวรรษที่ 18 ผลิต ใช้ข้าวโพดเป็นส่วนผสมในเชื้อหมักไม่ต่ำ 51%

Bourbon whiskey

ตัวอย่างเช่น Jim Beam มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน มีกลิ่นวานิลาและคาราเมลเข้มข้น และขายดีเป็นอันดับต้นๆของโลก

6.คอร์น วิสกี้ (Corn Whiskey) มีส่วนผสมหลักเหมือนเบอร์เบิ้ล วิสกี้(Bourbon Whiskey) แต่ใช้สัดส่วนข้าวโพดมากกว่า80% และไม่ต้องนำไปบ่มในถัง เพื่อแต่งสีและกลิ่น และ บ่มในถังไม้โอ๊คที่ไม่เผา

corn whiskey

ตัวอย่างเช่น Ole Smoky Original Moonshine Whiskey ผลิตตามสูตรดั้งเดิมอายุกว่าร้อยปีของ Ole Smoky ให้สัมผัสที่นุ่มนวลและปลอดโปร่ง สามารถดื่มได้ทั้งแบบไม่ผสม หรือชงเป็น Cocktail

7.เทนเนสซี่ วิสกี้ ( Tennessee Whiskey) วิสกี้นี้มีสัดส่วนข้าวโพด 51% แบบ เบอร์เบิ้ล วิสกี้ (Bourbon Whiskey) แต่ไม่ใช่ เพราะว่าขั้นตอนการผลิตต่างกัน มีขั้นตอนการผลิตดังนี้ ใช้น้ำจากถ้ำที่มีอุณหภูมิคงที่ตลอดปี ปราศจากธาตุเหล็ก กรองด้วยถ่านไม้เมเปิ้ล วิสกี้ชนิดนี้ได้แก่ Jack Danial’s

Tennessee whiskey

สำหรับอเมริกัน วิสกี้นั้นหลักๆทำจากข้าวโพด เพราะแถบพื้นที่ในอเมริกาแถบที่ทำเหล้า มีสภาพอากาศที่แห้งแล้งไม่เหมาะในการปลูกพืชเพื่อการเกษตรเหมาะกับการปลูกข้าวโพดมากที่สุดจึงเป็นที่มาของอเมริกัน วิสกี้ (American Whiskey)

สำหรับการดื่มเหล้า “อเมริกัน วิสกี้” ส่วนมากจะนิยมดื่ม On The Rock หรือดื่มเพียวๆ แบบ Neat ก็ได้ หรือจะผสมกับ Mixer อาจจะทำให้เสียรสชาติไปบ้าง แต่สำหรับบางคนที่ไส่ผสมกับโซดา หรือว่าผสมโค้กก็ถือว่าไม่ผิดเช่นกัน

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts