Canadian Whisky (แคนาเดี้ยน วิสกี้)

“แคนาเดี้ยน วิสกี้” เหล้า แคนนาเดี้ยน วิสกี้ เป็นเหล้าวิสกี้ของประเทศแคนนาดาที่มีถิ่นกำเหนิดมาจากประเทศอเมริกา แต่ที่มีความแตกต่างจากเหล้าวิสกี้ของอเมริกา และ เหล้าวิสกี้จากสก๊อตแลนด์คือเหล้าวิสกี้ของแคนาดา จะใช้ข้าวไรย์เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต

เหล้าวิสกี้ของแคนนาดา ถือกำเนิดขึ้นช่วง ค.ศ.1800-1900 โดยผู้อพยพชาวอเมริกากับชาวยุโรปที่มีความชำนาญในการผลิตเหล้าวิสกี้ในสมัยนั้น เนื่องจากช่วงนั้นที่อเมริกาได้ออกกฏหมายห้ามผลิตเหล้า และ มีการเก็บภาษีเครื่องดื่มที่สูง และ ช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามแบ่งแยกดินแดนที่อเมริกาพอดี จึงทำให้พ่อค้าหัวใส ผลิตวิสกี้ที่แคนนาดาส่งออกไปขายยังอเมริกา

วิสกี้จากแคนนาดามีชื่อเรียกว่า เหล้าเถื่อน ต่อมามีการกวดขันมากขึ้นจึงทำไห้เป็นที่มาของการตั้งโรงงาน

ถิ่นฐานในการผลิตที่แคนนาดาอย่างถาวร และถูกกฏหมาย มีการตั้งโรงงานแรกโดย “John Molson”

ตั้งโรงงานกลั่นเหล้าวิสกี้ใน “มอนทรีออล”แคนนาดา

Kington เป็นคนแรกในแคนนาดาที่ส่งออกเหล้าวิสกี้ไปทั่วยุโรปและสหรัฐอเมริกา และเป็นที่รู้จักตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

วัตถุดิบและขั้นตอนการผลิต

Canadian Whisky เหล้าแคนนาเดี้ยน วิสกี้ ผลิตจากข้าวเมล็ดข้าวไรย์โดยส่วนมากกว่า51%,ข้าวโพด,

ข้าวสาลี, รวมทั้งข้าวบาร์เลย์ โดยอัตราส่วนแล้วแต่ผู้ผลิตจะกำหนดให้ได้มาตรฐานที่กฎหมายกำหนด

แต่โดยส่วนมากจะใช้ข้าวไรย์เยอะที่สุดในการผลิต จึงทำให้วิสกี้ชนิดนี้เรียกว่าเป็น  Rye Whisky อีกชนิดหนึ่ง

ขั้นตอนการผลิตและกรรมวิธีการผลิตจะคล้ายกับวิสกี้ที่ผลิตที่ประเทศสหรัฐอเมริกา  แต่ระยะเวลาการบ่มจะต่างกัน Canadian Whisky ระยะเวลาการบ่มจะใช้ระยะเวลาในการบ่มอย่างน้อย 6 ปีขึ้นไป 

เหล้าจะมีดีกรีประมาณ 86 – 90 Proof รสชาติของ Canadian Whisky  มีความนุ่มเบากว่าวิสกี้ทั่วไป แต่มีความหอมกลิ่นไม้โอ้คต ขมปนหวาน

นอกจากการผลิตเหล้าแคนนาเดี้ยน วิสกี้แล้วยังมีการผลิตเหล้าวิสกี้ที่เรียกว่า Blended Canadian Whisky

เหล้าแคนนาเดี้ยน วิสกี้ ได้แก่ Canadian Club, Winsor Canadian, Dalmor ป็นต้น

สำหรับการดื่มเหล้า Canadian Whisky นั้น ด้วยที่รสชาติที่นุ่มและแอลกอฮอร์ดีกรีพอเหมาะทำให้คนส่วนมากเลือกที่จะดื่มแบบ เพรียว ๆ หรือว่า Neat สำหรับสาว ๆ ดื่มแบบผสมมิกเซอร์ไส่โค้ก จิงเจอร์เอลก็ได้รสชาติอร่อยไปอีกแบบ

จากที่เราได้เกริ่นไปถึงประวัติความเป็นมา รวมทั้งลำดับขั้นตอนวิธีการผลิตและวัตถุดิบที่นำมาใช้ไปแล้วข้างต้น เรามาพูดถึงแคนนาเดี้ยนวิสกี้ที่อยากจะมาแนะนำกันเลยว่าจะมียี่ห้อไหนควรค่าแก่การค้นหามาลิ้มลองกันบ้าง

Black Velvet Reserve

วิสกี้ระดับตำนานยี่ห้อหนึ่งที่ใช้เวลาหมักถึง 8 ปีเริ่มผลิตตั้งแต่ปี 1991 ที่ถือว่าเก่าอยู่ในระดับหนึ่ง ก็มีกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม อาจจะเป็นรสสัมผัสที่มีความรู้สึกถึงลูกแพร์ ถั่ว และพริกไทยที่ผสมผสานกันอย่างซับซ้อนอย่งไม่น่าเชื่อว่าจะเข้ากันได้ที่ทำให้รสชาติของ มีความน่าสนใจ รสชาติไม่พุ่งตรงไปที่ความแข็งกร้าวออกแนวนุ่มนวลและดื่มง่ายกว่าที่คิด กับราคาที่ถูกเพียงแค่ 14 ดอลล่าห์ก็คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มแล้ว

Black Velvet Reserve

Phillips Distilling Revel Stoke Pecan

วิสกี้ที่ผ่านการปรุงแต่รสอย่างอื่นกลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน แต่ถ้าเราพูดถึงความยิ่งใหญ่ในอดีต Phillips Distilling Revel Stroke Pecan ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งที่ได้รับความนิยม เพราะมีการนำเสนอรสชาติขิงวิสกี้หลากหลายรสชาติและรสเลิศ อาทิ สัปปะรด ซินนามอน และพีแคน โดยรวมแล้วกลายเป็นวิสกี้ระดับเทพที่น่าสนใจชนิดหนึ่ง

Phillips Distilling Revel Stoke Pecan

Rich & Rare Reserve Canadian Whisky

วิสกี้ที่ถือกำเนิดในช่วงของยุคแห่งการห้ามผลิตที่ Harry Hatch เป็นเจ้าของอยู่ในขณะนั้น แต่เหนือสิ่งอื่นใดเราจะไม่พูดถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ในด้านของรสชาตินั้นมีการผสมผสานที่น่าหลงใหลชวนให้นึกถึงขมปังปิ้งและน้ำผึ้งชั้นสูง เป็นกลิ่นที่หอมหวาน ในขณะที่จมูกก็ได้ดลิ่นความซาบซ่านของเครื่องเทศและไรย์ที่ให้ความรู้สึกถึงความอ่อนหวานที่แอบแฝงไปด้วยความเผ็ดร้อน

Rich & Rare Reserve Canadian Whisky

Canadian Club 100% Rye

แคนาเดี้ยน วิสกี้ที่ได้รับการผสมผสานแบบ Reserve ทั้งยังใช้ข้าวไรย์ 100 ส่วนเต็มกำลังสูบ จนกลายเป็ที่นิยมและได้รับรางวัลวิสกี้ที่ดีดีที่สุดในโลกปี 2015 อีกด้วย โดยรวมแล้วรสชาติของ Canadian Club 100% Rye ให้สัมผัสถึงคาราเมลและไม้โอ๊คที่เข้มข้น การผสมที่ลงตัวแอบตัดปลายด้วยความเผ็ดร้อนตามมฉบับจากเครื่องทศ แต่ก็ยังคงความเป็นแคเนเดียนแบบเก่า โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้น่าสนใจและเยี่ยมสมกับรางวัลที่ได้จริงๆ

Canadian Club 100% Rye

Forty Creek Barrel Select

วิสกี้สายหรูที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นถึงวิสกี้ที่มีรสชาติดีที่สุดเป็นอันดับ 1 ในอเมริกาเหนือสำหรับราคาต่ำว่า $20 เพราะรสชาติที่ผ่านกการกลั่นด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความนุ่มนวล สัมผัสที่ค้างคาอยู่หลังจากวิสกี้ไหลผ่านคอคือความชุ่มชื้นและความหวานตัดเผ็ดร้อน สมแล้วที่ได้หมักในถังไม้โอ๊คสีขาว เพราะ Forty Creek Barrel Select ได้เกิดใหม่ในฐานะของวิสกี้ที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ 

Forty Creek Barrel Select

Pendleton 1910

แบรนด์วิสกี้ที่ตั้งอยู่ในรัฐโอเรกอน มีอายุการบ่มอยู่ที่ 12 ปี มีปริมาณ แอลลกอฮล์อยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ ABV ถือว่าเป็นวิสกี้ที่เหมาะสำหรับการจิบเรื่อย ๆ และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศยามค่ำคืน ตัวโน้ตของวิสกี้ตัวนี้คือ กลิ่นหนัง คาราเมล ผลไม้และอบเชยที่ติดอยู่ที่เพดานปาก

Pendleton 1910

Crown Royal Hand-Selected Barrel

“หนึ่งใน 50 วิสกี้ส่วนประกอบที่เข้าสู่การผสมผสานแบบมาตรฐานของ Crown Royal คอมเพล็กซ์นี้, จิบวิสกี้แสนอร่อยเริ่มต้นด้วยเมเปิ้ลและกลิ่นวานิลลาจากนั้นเปลี่ยนเป็นโน๊ตของผลไม้เมืองร้อนและเชอร์รี่บนเพดาน. มันเสร็จสิ้นยาวอุ่นและเผ็ด.”

Crown Royal Hand-Selected Barrel

Collingwood Canadian Whisky

หนึ่งในแคนนาเดี้ยน วิสกี้ที่ได้รับการปรุงแต่งอย่างพิถีพิถัน และถือเป็นวิสกี้ที่มีความครบถ้วนเรื่องรสชาติ และ กลิ่น ถือว่าเป็นวิสกี้ที่เหมาะสำหรับ การจิบแบบเพียว ดื่มแบบ on the rock หรือว่าจะทำเป็นคอกเทลก้ดีไปอีกแบบ เรื่องกลิ่นนั้นมีความหวานของเกรแฮม แคร็กเกอร์พร้อมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของวานิลลา คาราเมล และบัตเตอร์สก็อต เสริมด้วยกลิ่นดอกไม้ (กุหลาบ) และกลิ่นผลไม้

Collingwood Canadian Whisky

Caribou Crossing Single Barrel Canadian Whiskey

น้ำผึ้งสีเข้มในแก้ววิสกี้นี้มีกลิ่นเมเปิ้ลและซีดาร์ในช่อดอกไม้ คาดว่าจะมีเครื่องเทศจำนวนมากติดอยู่บนเพดานปากเช่นกานพลูอบเชยลูกจันทน์เทศพริกป่น และ พริกไทยดำทั้งหมดถูกทำให้เรียบด้วยริบบิ้นเมเปิ้ล และ น้ำผึ้ง เสร็จสิ้นใหญ่กลมเนย และ น่ารับประทาน

Caribou Crossing Single Barrel Canadian Whiskey

Alberta Rye Dark Batch

วิสกี้สัญชาติแคนาดานี้ผสมผสานกับเบอร์เบินข้าวไรย์สูงและสัมผัสของเชอร์รี่ทำให้ได้สีเหลืองอำพันที่ลึกล้ำและกลิ่นแปลก ๆ ของซาร์ซาปาริลลาที่มีลักษณะเป็นไม้ล้มลุกและเกือบเหมือนอะมาโรและเครื่องเทศทั้งหมด เสร็จสิ้นการแสดงโน๊ตสีเข้มของทอฟฟี่ช็อคโกแลตเม็กซิกันรสเผ็ด และ เครมบรูเล่รวมถึงความร้อนของแอลกอฮอล์

Alberta Rye Dark Batch

Bison Ridge Special Reserve

วิสกี้รสกลมกล่อมและสีทองสดใสนี้มีแกนเนื้อนุ่มของผลไม้เมืองร้อนที่เน้นด้วยบัตเตอร์สก็อตครีมมะนาวและขิง แห้งสนิทพร้อมสัมผัสกับควันไฟและน้ำเกลือที่ชวนน้ำลายสอ

Bison Ridge Special Reserve

Dillon’s The White Rye

ทำด้วยข้าวไรย์ที่ปลูกในแคนาดา แต่ไม่มีริ้วรอยของไม้จิตวิญญาณที่ชัดเจนนี้มีกลิ่นหอมหวานดอกไม้เล็กน้อยและแสดงถึงความละเอียดอ่อนอย่างน่าประหลาดใจบนเพดานปาก หมายเหตุของลูกแพร์และดอกไม้สีขาวนำไปสู่ความเผ็ดของเครื่องเทศขิงและพริกไทยขาวเมื่อเสร็จสิ้น การเปลี่ยนแปลงที่ดีจาก ‘สุนัขสีขาว’ ที่มักจะหยาบกร้านให้ผสมวิสกี้สีขาวที่มีโครงสร้างดีนี้ลงในเครื่องดื่มที่มีรสเปรี้ยว

Dillon’s The White Rye

ติดตามเรื่องราวของเครื่องดื่มหลากหลายประเภทได้ที่เรา boozeforlife.com

Articles You Might Like

Share This Article

Get Your Weekly Sport Dose

Subscribe to TheWhistle and recieve notifications on new sports posts